ลูกมีพฤติกรรมลูบคลำอวัยวะเพศตัวเอง

พฤติกรรมที่ลูกลูบคลำอวัยวะเพศของตัวเอง แอบดูเพื่อนตอนเข้าห้องน้ำ เปิดกระโปรงเพื่อน จับหน้าอกแม่ มุดกระโปรงคุณครู หรือจับกลุ่มสำรวจร่างกายของกันและกันในหมู่เพื่อน ๆ อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความวิตกกังวล และเป็นห่วง ว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับลูก ลูกหมกมุ่นกับเรื่องเพศหรือเปล่านะ

เพียงความอยากรู้อยากเห็น

อย่าเพิ่งตกอกตกใจไปค่ะเรื่องนี้มีจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำอธิบาย ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สงบอกสงบใจไว้ว่า ช่วงวัย 3-5 ปี เป็นช่วงที่เด็กสนใจส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทั้งของตัวเอง และส่วนต่าง ๆ ของคนอื่น เพื่อเปรียบเทียบว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร พฤติกรรมเหล่านี้จึงเป็นเพียงการตอบสนอง ความอยากรู้อยากเห็น ที่เกิดขึ้นของเด็กวัยนี้ในเรื่องของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายว่า สิ่งนั้นทำหน้าที่อะไร รูปร่างหน้าตาเหมือนหรือต่างอย่างไร ความไม่เหมือนกันของเพศหญิงเพศชาย จึงทำให้เด็กตื่นเต้น และสนใจอวัยวะสำคัญส่วนนี้ แต่มันก็เป็นแต่ความอยากรู้พื้น ๆ ที่เป็นปกติ โดยไม่มีเรื่องของอารมณ์เพศหรือกามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างที่คุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ใหญ่หวาดกลัว และคิดเกินเลยไปเองแม้แต่น้อย เพราะถ้าจะว่าไปแล้วความสนใจอยากรู้อยากเห็นในร่างกายหรืออวัยวะเพศของตัวเอง หรือของคนอื่นนี้ หากคุณพ่อคุณแม่ได้ลองไปพูดคุยกับเด็ก ๆ แล้ว ก็จะรู้ว่า มันเป็นความสนใจใคร่รู้ธรรมดา ๆ เท่านั้น ถ้าจะเปรียบไป ก็คงเหมือนกับที่เด็กสงสัยอยากรู้ว่า นกสร้างรังบนต้นไม้ได้อย่างไร ทำไมรถถึงวิ่งได้ หมาทำไมถึงมีหาง ฯลฯ นั่นแหละค่ะ

ระดับความสนใจ

ถึงจะอยู่ในช่วงวัยที่สนใจในเรื่องเพศ แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกคนจะต้องอยากรู้อยากเห็นในเรื่องนี้เหมือนกันเสียทั้งหมด เพราะเด็กบางคนก็อาจจะไปสนใจเรื่องอื่น ๆ รอบตัว เช่น สนใจสัตว์เลี้ยง ของเล่น ศิลปะ ฯลฯ มีการสำรวจพบว่า ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างเด็กหญิงกับเด็กชายแล้ว มีแนวโน้มว่า เด็กผู้ชายจะสนใจในเรื่องนี้มากกว่า และในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างเปิดเผย เช่น ถอดเสื้อผ้าต่อหน้าลูก อาบน้ำพร้อมกัน จะทำให้เด็กถูกกระตุ้น ให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นในความแตกต่างระหว่างเพศมากขึ้น

สร้างความเข้าใจ

หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นว่า ลูกเริ่มแสดงออกว่า มีความสนอกสนใจต่อเรื่องร่างกายและอวัยวะเพศ ก็ไม่ควรทำท่าทีตกใจ ดุว่า หรือลงโทษลูก เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีต่อการเรียนรู้เรื่องเพศ ทางที่ดีที่สุดก็คือ ควรจะอธิบายสิ่งที่ลูกสงสัยอยากรู้ ให้เข้าใจด้วยท่าทีปกติธรรมดาอย่างเช่น อาจจะบอกให้ลูกได้เข้าใจว่า การที่ลูกไปเปิดกระโปรงเพื่อน มุดกระโปรง จับหน้าอกแม่หรือคุณครู หรือถอดเสื้อผ้าต่อหน้าคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะอวัยวะบางส่วนในร่างกายเราเป็นเรื่องส่วนตัวที่จะต้องปกปิดไว้ ซึ่งจะเที่ยวเปิดเผยให้คนอื่นดูหรือไปดูของคนอื่นไม่ได้ส่วนมากแล้วเด็ก ๆ ไม่รู้ว่าพฤติกรรมแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ผู้ใหญ่ในบ้านหรือคุณพ่อคุณแม่ จึงต้องค่อย ๆ บอก ค่อย ๆ สอนให้ลูกรับรู้ว่าควรทำอย่างไร เด็กจะได้ประพฤติตัวได้เหมาะสมและถูกต้อง พร้อมกันนั้นคุณพ่อคุณแม่ ก็น่าจะถือโอกาสที่ลูกกำลังสนใจหรือกำลังสงสัยนี้ สอดแทรกความรู้ง่าย ๆ เกี่ยวกับเพศศึกษาที่เหมาะสม กับวัยของลูกไปทีละน้อย โดยผ่านหนังสือภาพและคำอธิบายที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เพียงแนะนำให้รู้จักและเข้าใจว่า อวัยวะส่วนนี้เป็นอย่างไร ผู้หญิงผู้ชายต่างกันอย่างไร เพื่อให้ลูกได้คลายความสงสัยลง ดีกว่าที่จะใช้วิธีเปลี่ยนเรื่องคุย บ่ายเบี่ยงเมื่อลูกถาม เพราะจะยิ่งทำให้ลูกอยากรู้มากขึ้นได้ หากิจกรรมอื่นให้ทำ นอกจากการอธิบายให้ลูกเข้าใจแล้ว การชักชวนให้ลูก ไปสนใจทำกิจกรรมอื่น เช่น การเล่นเกม ของเล่น หรือไปปลูกต้นไม้ เล่นกีฬา เลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ลูกละความสนใจในร่างกายลง ก็เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้ลูกลดหรือเลิกพฤติกรรมนี้ไปได้ เพราะมีสิ่งอื่นที่น่าสนใจกว่ารออยู่

แค่ไหนถึงน่าเป็นห่วง

ถึงแม้จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะบอกว่า ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเพศที่เกิดขึ้นกับเด็กวัย 3 ขวบนี้ จะถือว่าเป็นเรื่องปกติ และจะค่อย ๆ หายไปเองหลังจากนี้ 1-2 ปี แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะใส่ใจและหมั่นสังเกตลูกอย่างใกล้ชิด เพราะหากเกิดอะไรผิดปกติขึ้นจะได้ช่วยเหลือและแก้ไขได้ทันท่วงทีไม่ควรวางใจหากลูก หมกหมุ่นอยู่กับการลูบคลำอวัยวะเพศของตนเอง และมีพฤติกรรมมากกว่าการเรียนรู้ธรรมดา เช่น การเอาวัตถุสอดใส เข้าไปในอวัยวะเพศ หมกหมุ่นกับการเล่นจู๋มากเกินไป ฯลฯ สนใจร่างกายของคนอื่นมากจนไม่สนใจกิจกรรมอื่น ไม่เล่นกับเพื่อน ๆ ชอบอยู่คนเดียวตามลำพัง นี่อาจเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกว่า ลูกน้อยมีปัญหาอื่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางกายหรือปัญหาทางใจ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์จะดีกว่าค่ะ ลูกมาเล่าให้ฟังว่า ถูกเด็กที่โตกว่าหลายปี ลูบคลำอวัยวะเพศหรือให้ลูกเป็นฝ่ายลูบคลำอวัยวะเพศให้ เพราะเด็กที่โตกว่าน่าจะหมดความสนใจในการเรียนรู้ร่างกายแบบนี้แล้ว ควรรีบหาทางป้องกันและแก้ไข หากลูกถูกล่วงเกินทางเพศ ควรรีบขอความช่วยเหลือจากศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิเด็ก ฯลฯ หรือแจ้งความกับตำรวจโดยด่วน เฉย ๆ หากลูกแสดงความสนใจในเรื่องจู๋จู๋ จิ๋มจิ๋มนี้ เพียงแต่ให้คำแนะนำดูแลและสังเกตอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอก็พอ หาหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับร่างกายสำหรับเด็ก ที่มีภาพเหมาะสมที่เด็กจะให้ดูติดบ้านไว้สัก 1-2 เล่ม คุณจะได้อธิบายเรื่องเพศกับลูกได้อย่างชัดเจนและมั่นใจ

เมื่อลูกเกิดความสงสัยขึ้น

ไม่ควรกระตุ้นความอยากนี้ของลูก ด้วยการเปิดเผยรูปร่าง สัดส่วนของคุณให้ลูกเห็นโดยไม่จำเป็น อย่าอายที่จะปรึกษากับคุณครูหรือเพื่อนผู้ปกครองที่ใกล้ชิดกับลูก เพื่อจะได้ร่วมมือกันดูแลเด็ก ๆ อย่างทั่วถึง รีบพาลูกไปพบแพทย์ หากสังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจและให้ความช่วยเหลือ แนะนำลูกอย่างถูกวิธี แกก็จะเรียนรู้ และผ่านความอยากรู้อยากเห็นเรื่องใต้สะดืออย่างพี่จู๋และน้องจิ๋มได้อย่างสบายค่ะ

ขอบคุณนิตยสารดวงใจพ่อแม่