ลูกติดขวดนม


ลูกชายอายุ 7 ขวบแล้วค่ะ แต่แกยังติดขวดนมกับตุ๊กตาหมีอยู่ โดยเฉพาะตอนก่อนนอนจะติดขวดนมมาก จะแก้ไขอย่างไรดี ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ตำราที่เขียนเกี่ยวกับจิตวิทยาพัฒนาการเด็กเขียนไว้ว่า เราควรหัดให้เด็กหย่านมขวดตั้งแต่อายุ 1 ขวบเศษ ๆ โดยหัดให้ดื่มนมจากแก้ว หัดไปทีละน้อย ๆ หัดช้า ๆ แบบค่อยเป็นค่อยไป จนเด็กมีทักษะพอสมควรในการดื่มนมจากแก้วได้แล้ว หรือสามารถดูดนมโดยใช้หลอดดูดได้แล้ว เราก็ถือโอกาสให้เด็กเลิกดูดนมจากขวดไปเลย ซึ่ง โดยทั่วไปแนะนำว่า น่าจะหย่านมขวดได้ตั้งแต่ปลายขวบปีที่ 2 แต่อย่างไรก็ตาม ในบ้านเราส่วนใหญ่เรามักให้ลูกของเราดูดนมขวดไปเรื่อยๆ เพราะกลัวว่า ลูกจะได้นมหรือได้แคลอรี่ไม่พอ ไม่เพียงแต่จะให้ลูกดูดไปเรื่อยๆ เท่านั้น บางครอบครัวยังกระตุ้นและบังคับให้เด็กดูดนมมาก ๆ แม้แต่ลูกหลับก็ยังกระตุ้นให้ลูกดูดนมอยู่ตลอด ลักษณะการเลี้ยงดูแบบนี้ จึงทำให้เด็กดูดนมขวดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานอน เราพบเป็นภาวะปกติว่า เด็กวัยอนุบาลบ้านเรายังดูดนมขวดอยู่โดยเฉพาะเวลาก่อนนอน แม้ว่าการติดขวดนมของเด็กวัยอนุบาลนี้จะดูว่าน่าจะเลิกได้โดยสิ้นเชิงแล้วก็ตาม ก็อย่าเพิ่งกังวล เพราะว่าสำหรับบ้านเราแล้วก็ไม่มีความผิดปกติอะไรเลย โดยเฉพาะในรายที่ติดขวดนม โดยเฉพาะตอนก่อนนอน แต่อย่างไรก็ตามเราควรฝึกให้เด็กเลิกดูดนมขวด เมื่อผ่านพ้นวัยอนุบาลไปแล้ว

วิธีให้เด็กเลิกขวดนม

ขอให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าหงุดหงิด อย่าโกรธ อย่าฝืนเอาชนะเด็ก พ่อแม่ควรบอกกับลูกว่า ลูกโตแล้ว เด็กโตต้องหัดดื่มนมจากแก้ว และเด็กที่โตแล้วไม่ควรดูดนมจากขวดนม ด้วยการจูงใจ ด้วยท่าทีที่อ่อนโยน ค่อย ๆ เอาขวดนมออกจากปาก แสดงความรักและอบอุ่น มั่นใจกับตัวลูก เด็ก ๆ มักยอมปฏิบัติตาม และเมื่อเด็กเริ่มดื่มนมจากแก้ว เราควรให้ความรู้สึกพึงพอใจในตัวลูก ชื่นชมกับการที่ลูกเป็นเด็กโตที่ไม่ต้องดูดนมจากขวดอีกแล้ว ต้องค่อยๆ ทำ ขอให้อดทน อย่ากังวล อย่าใจร้อน เด็กจะหย่านมได้เอง สำหรับการติดตุ๊กตาก็เป็นเรื่องปกติ เพราะเด็กที่กำลังจะเติบโตจากวัยเด็กแล้วสู่วัยอนุบาล และจากวัยอนุบาลสู่วัยเรียนนั้น เด็กมักมีความวิตกกังวลต่อหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความกังวลที่ต้องจากแม่ ดังนั้นเด็กจึงมักจะติดอะไรบางอย่าง ซึ่งเปรียบเสมือนว่าเป็นบุคคลที่ทำให้เขาอบอุ่นใจ การติดของเล่นนี้ จะเป็นอยู่ระยะหนึ่งเท่านั้นการที่พ่อแม่ให้ความเอาใจใส่ ให้ความรักความใกล้ชิด ความอบอุ่นที่เพียงพอ เด็ก ๆ ก็จะเลิกตุ๊กตาไปเองตามพัฒนาการของเด็ก

ขอบคุณ หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน